บริษัท เอ็นริช ฟ็อกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์รวมเครื่องพ่นหมอกควัน เครื่องพ่นละอองฝอย เครื่องกำจัดยุงแมลง เครื่องกำจัดเชื้อไวรัสโควิด19 น้ำยาฆ่าเชื้อโรค อันดับ 1 ในประเทศไทย

บริษัท เอ็นริช ฟ็อกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์รวมเครื่องพ่นกำจัดยุงแมลงและกำจัดเชื้อไวรัสโควิด19 อันดับ 1 ในประเทศไทย

บริษัท เอ็นริช ฟ็อกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์รวมเครื่องพ่นหมอกควัน เครื่องพ่นละอองฝอย เครื่องกำจัดยุงแมลง เครื่องกำจัดเชื้อไวรัสโควิด19 นำยาฆ่าเชื้อโรค อันดับ 1 ในประเทศไทย

บริษัท เอ็นริช ฟ็อกเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ศูนย์รวมเครื่องพ่นกำจัดยุงแมลงและกำจัดเชื้อไวรัสโควิด19 อันดับ 1 ในประเทศไทย

พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายแรก เกาหลีเหนือสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ

พบผู้ ติดเชื้อโควิด-19 รายแรก เกาหลีเหนือสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ

พบผู้ ติดเชื้อโควิด-19 รายแรก เกาหลีเหนือสั่งล็อกดาวน์ทั่วประเทศ นายคิม จอง อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ได้สั่งให้ทุกเมืองดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ หลังมีรายงานเป็นครั้งแรกว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 บริเวณพรมแดนของประเทศ สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA) รายงานว่า เกิดสถานการณ์ร้ายแรงขึ้น เนื่องจากพบไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนในเขตแดนของเรา โดยในการประชุมพรรคแรงงานในวันนี้ เจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือได้ประกาศยกระดับมาตรการกักกันโรคทั่วประเทศขึ้นสู่ “ภาวะฉุกเฉินสูงสุด” นายคิม ได้สั่งให้ทุกเมืองและทุกมณฑลทั่วประเทศดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่ของตน เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสที่อันตรายดังกล่าว สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ เกาหลีเหนือไม่เคยรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ต่างเคลือบแคลงสงสัย นอกจากนี้ เกาหลีเหนือยังปฏิเสธที่จะรับวัคซีนจากต่างประเทศด้วย โดยรายงานระบุว่า การจัดส่งวัคซีนตามแผนได้ถูกระงับ เนื่องจากเกาหลีเหนือไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของโครงการโคแวกซ์ (COVAX) ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ทั้งนี้ มาตรการควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ โดยเฉพาะการปิดพรมแดนที่ติดกับจีนเป็นเวลามากกว่า 2 ปี ซึ่งจีนนั้นเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือ โดยมาตรการดังกล่าวได้สร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจของเกาหลีเหนือ ซึ่งได้รับผลกระทบอยู่แล้วจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาประเทศ ที่มา : mgronline.com เกาะติดข่าวที่นี่ Website : www.enrichfoggerthai.com […]

โอมิครอน ป่วยลองโควิด ผลวิจัยอังกฤษชี้กลุ่มครบ 2 เข็ม ป่วยน้อยลงครึ่งๆ

โอมิครอน ป่วยลองโควิด ผลวิจัยอังกฤษชี้กลุ่มครบ 2 เข็ม ป่วยน้อยลงครึ่งๆ

โอมิครอน ป่วยลองโควิด ผลวิจัยอังกฤษชี้กลุ่มครบ 2 เข็ม ป่วยน้อยลงครึ่งๆ โอมิครอน ป่วยลองโควิด ผลวิจัยอังกฤษชี้กลุ่มครบ2เข็มป่วยน้อยลงครึ่งๆ โอมิครอนป่วยลองโควิด – วันที่ 10 พ.ค. เซาท์ไชนามอร์นิงโพสต์รายงานว่า ผลวิจัยจากประเทศอังกฤษพบกลุ่มที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาปี 2019 หรือโควิด-19 อย่างน้อย 2 เข็ม พบภาวะที่ป่วยเป็น “ลองโควิด” (Long Covid) ได้น้อยลงครึ่งต่อครึ่งจากสายพันธุ์โอมิครอน การศึกษาดังกล่าวใช้การเปรียบเทียบระหว่างสายพันธุ์โอมิครอน (BA.1 และ BA.2) กับสายพันธุ์เดลต้าในกลุ่มผู้ป่วยโรคโควิด-19 ซึ่งได้รับวัคซีนป้องกันแล้ว 2 เข็ม โดยสังเกตอาการป่วยหลังติดเชื้อนาน 4-8 สัปดาห์ พบว่ามีผู้แสดงอาการป่วยน้อยกว่ากลุ่มเดลต้าราวร้อยละ 50 ข้อมูลยังบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้ได้รับวัคซีนรวม 3 เข็ม มีความเสี่ยงที่จะป่วยเป็นลองโควิดไม่แตกต่างกันในการติดเชื้อครั้งแรกระหว่างทั้งสองสายพันธุ์ (แต่รายงานไม่ได้ระบุว่าเสี่ยงมากหรือน้อย) อย่างไรก็ตาม สำนักงานข้อมูลเชิงสถิติอังกฤษ หรือโอเอ็นเอส ระบุว่า ได้รับรายงานว่ามีผู้ป่วยลองโควิดจากสายพันธุ์โอมิครอน BA.2 (Steath Variant) มากกว่า BA.1 ราวร้อยละ […]

พบ โอไมครอน สายพันธุ์ใหม่ BA.12 ในอินเดียอันตรายกว่า BA.2 สิบเท่า!

พบ โอไมครอน สายพันธุ์ใหม่ BA.12 ในอินเดียอันตรายกว่า BA.2 สิบเท่า!

พบ โอไมครอน สายพันธุ์ใหม่ BA.12 ในอินเดียอันตรายกว่า BA.2 สิบเท่า! ‘อินเดีย’ ประกาศค้นพบโควิดสายพันธุ์ใหม่ BA.12 ในรัฐพิหาร คาดอันตรายกว่า BA.2 ถึงสิบเท่า ขอ ปชช.อย่าตระหนก แต่ให้ทำตามมาตรการควบคุมโรคเคร่งครัด สำนักข่าวอิศรา (www.isranews.org) รายงานข่าวเกี่ยวกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 หรือโคโรน่าไวรัสว่าหน่วยงานสาธารณสุขของรัฐพิหาร ประเทศอินเดียได้ออกมาประกาศว่า นักวิจัยจากสถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์อินทิรา คานธี (IGIMS)  ค้นพบไวรัสโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ใหม่ชื่อว่า BA.12 ที่มีความอันตรายมากกว่าโควิดสายพันธุ์ BA.2 ถึงสิบเท่า ซึ่งไวรัสโควิดสายพันธุ์ดังกล่าวนั้นถูกพบในระหว่างการระบาดระลอกที่สามที่ประเทศอินเดีย โดย พญ. นัมราตา กุมารี  หัวหน้าภาควิชาจุลชีววิทยาของ IGIMS ได้ออกมาให้สัมภาษณ์โดยระบุว่าทางหน่วยงานสาธารณสุขนั้นได้เริ่มมีการถอดตัวอย่างทางพันธุกรรมของไวรัสโควิดสายพันธุ์ย่อยพบว่า “จากการทดสอบตัวอย่างจำนวน 13 ตัวอย่างพบว่ามีผู้ติดเชื้อหนึ่งรายมีโควิดสายพันธุ์ BA.12 ขณะที่อีก 12 รายที่เหลือเป็น BA.2” อนึ่งการกลายพันธุ์ของไวรัสนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ไวรัสมักจะทำอยู่แล้วเพื่อที่จะปรับตัวและอยู่รอด โดยการกลายพันธุ์ที่กลายเป็นภัยมากที่สุดก็คือการกลายพันธุ์ของโควิดสายพันธุ์เดลต้าและโอไมครอน ที่มีความแตกต่างจากสายพันธุ์ก่อนหน้านี้อย่างมีนัยยะสำคัญ   อย่างไรก็ตามการกลายพันธุ์หลังจากนี้นั้นโดยเฉพาะการเกิดขึ้นของไวรัสโควิดสายพันธุ์ BA.2 นั้นพบว่าทำให้มีศักยภาพในการแพร่เชื้อที่มากขึ้นเท่านั้น แต่ยังไม่ถือว่าเป็นอันตรายเท่ากับโควิดสายพันธุ์เดลต้า  แต่ทางด้านของ พญ.กุมารีได้ตั้งข้อสังเกตุว่าโควิดโอไมครอนสายพันธุ์ BA.12 ที่พบในรัฐพิหารนั้นจะมีความอันตรายมากกว่า BA.2 ถึงสิบเท่า โดย ณ เวลานี้นักวิทยาศาสตร์ได้ออกมาเรียกร้องให้ผู้คนอย่าเพิ่งกังวลจากการค้นพบโควิดสายพันธุ์ย่อยดังกล่าวนี้ และขอให้ปฏิบัติตามข้อควรระวังต่างๆอย่างเคร่งครัด เนื่องจากว่าทุกครั้งที่ผ่านมาหลังจากที่เกิดโควิดสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นมานั้น จะเกิดผลกระทบต่อจำนวนผู้ติดเชื้อแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น อย่างไรก็ตามผู้ที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดนั้นจะเป็นประชากรกลุ่มเปราะบางซึ่งมีภาวะปัญหาสุขภาพพื้นฐานอยู่แล้ว   เรียบเรียงจาก:https://www.thehealthsite.com/news/highly-transmissible-omicron-variant-detected-in-bihar-can-cause-10-times-more-harm-than-ba-2-876915/ ที่มา : www.isranews.org เกาะติดข่าวที่นี่Website : www.enrichfoggerthai.comFacebook […]

แนวทางป้องกัน โอไมครอน ทำยังไงให้เด็กเล็กปลอดภัย

แนวทางป้องกัน โอไมครอน ทำยังไงให้เด็กเล็กปลอดภัย โอไมครอนอยู่รอบตัว กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผย 7 แนวทางป้องกันเด็กเล็กติดโควิด ทำยังไงให้ลูกรักปลอดภัย จากกรณี สถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด-19 ในประเทศไทย โดยเฉพาะโควิดสายพันธุ์โอไมครอน หรือ โอมิครอน (Omicron) ทำให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มต่อเนื่อง สร้างความกังวลให้กับให้ประชาชนจำนวนมาก แม้ว่าสายพันธุ์โอไมครอน ถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่แสดงอาการน้อย มีลักษณะคล้ายไข้หวัด แต่ก็สามารถแพร่กระจายเชื้อได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะจำนวนผู้ติดเชื้อในกลุ่มเด็กเล็กที่เริ่มมากขึ้นตามลำดับล่าสุด กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้เผย 7 แนวทางการป้องกันโควิด-19 สำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี 1. หลีกเลี่ยงการพาเด็กเข้าไปในสถานที่แออัด ที่มีคนจำนวนมาก ระบบระบายอากาศไม่ดี 2. สวมหน้ากากอนามัยให้เด็กตลอดเวลาเมื่อออกนอกบ้าน เว้นระยะห่าง 2 เมตร (เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ไม่ควรสวมหน้ากาก เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการขาดอากาศหายใจ)  3. สอนให้เด็กล้างมือบ่อยๆ ไม่นำมือเข้าปากและหมั่นทำความสะอาดบ้าน พื้นผิวสัมผัส สิ่งของที่เด็กจับเป็นประจำ เช่น โต๊ะ เก้าอี้ ราวบันได ของเล่น 4. จำกัดกลุ่มคนที่พบเจอกับเด็ก หลีกเลี่ยงการคลุกคลี เช่น กอด จูบ หอมแก้ม […]

โอมิครอน ไม่น่ากลัว แต่น่ากลัวเมื่อเชื้อลงปอด

โอมิครอน ไม่น่ากลัว แต่น่ากลัวเมื่อเชื้อลงปอด

โอมิครอน ไม่น่ากลัว แต่น่ากลัวเมื่อเชื้อลงปอด แม้หลายคนจะมองว่า โควิดสายพันธุ์”โอมิครอน” ไม่ค่อยน่ากลัว แต่ไม่ใช่กับทุกคน เมื่อใดที่เชื้อลงปอด คนที่มีโรคประจำตัวและคนไม่ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นจะมีปัญหามากกว่าคนกลุ่มอื่น ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตจากโควิด ณ วันที่ 11-15 เมษายน 2565 แต่ละวันมีจำนวนมากกว่า 100 คนอย่างต่อเนื่อง เป็นตัวเลขเสียชีวิตสูงที่สุดในรอบเกือบ 4 เดือน โดยผู้ป่วยอาการหนักปอดอักเสบและผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจมีปริมาณมากขึ้น โอมิครอน เชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์นี้ เคยถูกมองว่าไม่น่ากลัว เพราะไม่ส่งผลแทรกซ้อนรุนแรงถึงชีวิต แต่เมื่อตัวเลขผู้เสียชีวิตเริ่มเปลี่ยนจากศูนย์ ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงผลการศึกษาวิจัยที่ถูกเปิดเผยกันมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีคำถามว่า“โอมิครอน”น่ากลัวน้อยกว่าสายพันธุ์อื่นๆ จริงเหรอ โอมิครอน เพิ่มจำนวนเร็วกว่าเดลต้า Dr. Michael Chan Chi-wai และทีมนักวิจัย คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮ่องกง ได้ทำการทดลอง เพื่อเปรียบเทียบความเร็วในการเพิ่มจำนวนของไวรัสโควิด ระหว่างสายพันธุ์โอมิครอนกับเดลต้าที่ติดอันดับท็อปเรื่องความรุนแรง พบว่า โอมิครอนสามารถเพิ่มจำนวนได้เร็วกว่าเดลต้ามากถึง 70 เท่า เมื่อเชื้อไวรัสจับกับกลุ่มเซลล์หลอดลม ซึ่งอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้โอมิครอนแพร่กระจายจากผู้ติดเชื้อสู่บุคคลอื่นได้ง่ายขึ้น แต่เมื่อเชื้อไวรัสเข้าสู่ปอดและยึดเกาะกับเนื้อเยื่อปอด การเพิ่มจำนวนไวรัสของโอมิครอนกลับช้าลง…และช้ากว่าเดลต้าถึง 10 เท่า เชื้อเติบโตช้า แต่ไม่ได้แปลว่า “โอมิครอน” ไม่อันตราย เมื่อพบไวรัสกลายพันธุ์ ต่างกังวลและโฟกัสถึงพลังการทำลายเซลล์ปอดของเชื้อสายพันธุ์นั้นๆ จนลืมไปว่าระดับความรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด อาจไม่ได้ขึ้นอยู่กับความเร็วของการเพิ่มจำนวนไวรัสเพียงอย่างเดียว หนึ่งในกลไกการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกัน […]

ผลศึกษาชี้ วัคซีนโควิด-19 สร้างภูมิจัดการ BA.2 ได้มากกว่า BA.1

ผลศึกษาชี้ วัคซีนโควิด-19 สร้างภูมิจัดการ BA.2 ได้มากกว่า BA.1 ภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิด19 สายพันธุ์ย่อย BA.2 พบวัคซีนสร้างภูมิลบล้างเชื้อไวรัสโอมิครอน BA.2 สูงกว่า BA.1 นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวประเด็น “ภูมิคุ้มกันต่อไวรัสโควิด19 สายพันธุ์ย่อย BA.2” ว่า การตรวจหาระดับภูมิคุ้มกันเป็นวิธีมาตรฐานโลก คือวิธี PRNT  โดยการนำภูมิคุ้มกันในน้ำเลือดของคนได้รับวัคซีนนำมาสู้กับไวรัสตัวเป็นๆ  คือ BA.2 ที่เพาะเลี้ยงขึ้นมาหลังการระบาด  หลักการคือ เมื่อนำน้ำเลือดมาเจือจางลงไปเป็นเท่าๆ เช่น 1:10 1:40 1:160 ไล่จนถึงจุดที่ฆ่าตัวรัสได้ครึ่งหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า เป็น PRNT50  คือเมื่อฆ่าได้ครึ่งหนึ่งจึงเป็นจุดที่หยุด เพราะตัวเลขเจือจางถึงในระดับที่ต้องการ เช่น หากเจือจางถึง 100 เท่าฆ่าได้ครึ่งหนึ่งจะเป็นไตเตอร์ 100 โดยวิธีนี้ต้องตรวจในห้องปฏิบัติการที่มีความปลอดภัยระดับ 3 เท่านั้น ไม่สามารถทำได้ในแล็ปทั่วไป ขณะนี้มีเพียงกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์แห่งเดียวทำได้ สำหรับผลที่ออกมา พบว่าผู้ที่ฉีด วัคซีนโควิด-19 ไม่ว่าสูตรไหนก็ตาม ปรากฏว่า ภูมิที่ลบล้างเชื้อไวรัสโอมิครอน […]

เช็กความพร้อม “ฉีดวัคซีนหลังติดโควิด” ได้ตอนไหน

เช็กความพร้อม "ฉีดวัคซีนหลังติดโควิด" ได้ตอนไหน

เช็กความพร้อม “ฉีดวัคซีนหลังติดโควิด” ได้ตอนไหน มีหลายคนสงสัยว่า หากติดโควิดแล้วจะสามารถฉีดวัคซีนหลังติดโควิดได้หรือไม่ และควรฉีดได้เมื่อไหร่ เรารวมข้อมูลมาให้แล้ว จากข้อมูลของโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เผยว่าผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 หลังจากรักษาจนหายดีแล้ว ประมาณ 1-3 เดือน ควรฉีดวัคซีน 1 เข็ม เพื่อกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันให้สูงขึ้น แม้ว่าหลังจากติดเชื้อโควิด-19 แล้ว ผู้ป่วยจะมีภูมิคุ้มกันในร่างกายในระดับหนึ่งก็ตาม แต่การได้รับวัคซีนจะช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายมากขึ้น โดยมีแนวทางดังนี้ ผู้ที่อยู่ในกลุ่มสัมผัสผู้ป่วยเสี่ยงสูง หากอยู่ในระยะกักตัว เพื่อสังเกตอาการ แนะนำว่าไม่ควรรับวัคซีนในตอนนี้ แต่ควรรอจนพ้นระยะสังเกตอาการและมั่นใจว่าไม่ติดเชื้อก่อน ขณะเดียวกันหากได้รับวัคซีนในขณะที่ติดเชื้อแบบไม่มีอาการโดยไม่รู้ตัว ก็ไม่มีอันตรายใดๆ ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อหายจากโรคแล้วจะยังมีภูมิต้านทานในร่างกายอยู่ระยะหนึ่งก่อนจะค่อยๆ ลดลง จึงมีโอกาสที่จะติดเชื้อซ้ำได้ ผู้ที่เคยติดเชื้อโควิด-19 เมื่อหายดีแล้ว หลังจากที่รักษาหายแล้วประมาณ 1-3 เดือน ควรฉีดวัคซีน 1 เข็ม เพื่อกระตุ้นระดับภูมิต้านทานให้สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้มีระดับภูมิต้านทานสูงกว่าผู้ที่ไม่เคยติดเชื้อมาก่อน ผู้ที่เคยฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อโควิด สามารถฉีดวัคซีนเข็มต่อไปได้ แต่ควรฉีดหลังจาก 3 เดือนหรือ 12 สัปดาห์ นับจากวันที่ทราบผลการติดเชื้อ วิธีดูแลตนเองขณะติดเชื้อโควิด-19 สำหรับผู้ติดเชื้อโควิดและกำลังอยู่ในช่วงกักตัว ควรปฏิบัติตนเองดังต่อไปนี้ […]